ที่บริเวณด่านชายแดนตรวจคนเข้าเมืองวังเต่า สปป.ลาว นายเมธา รุ่งฤทัยวัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พลตำรวจตรีคีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พลตรี อดุลย์ บุญธรรมเจริญ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ผู้อำนวยสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 3 อัครราชทูตที่ปรึกษาด้านควบคุมยาเสพติดประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเวียงจันทร์ ท่านสมบูน เฮืองวงสา รองเจ้าแขวงจำปาสัก สปป.ลาว และเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร ฝ่าย สปป.ลาว ส่งตัวผู้ถูกดำเนินคดีชาวไทย ซึ่งได้รับการผลักดันจากทางแขวงจำปาสัก สปป.ลาว โดยได้พ้นโทษ จำนวน 5 คน และส่งตัวนายชาตรี มุ่งหมาย ผู้ต้องหาหลบหนีคดียาเสพ โดยมีหมายจับคดียาเสพติดศาลจังหวัดกันทรลักษ์ เมื่อปี 2559 ในข้อหาครอบครองเพื่อจำหน่ายยาบ้าจำนวน 150,000 เม็ด เพื่อผ่านทางด่านศุลกากรช่องเม็ก อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจหาเชื้อโควิด นายชาตรี ตรวจคัดกรอง ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ได้รับนำตัวผู้ต้องหาไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด แจ้งว่าเมื่อวันวันศุกร์ที่ 4 มิถุนายน 2564 อัครทูตที่ปรึกษาด้านควบคุมยาเสพติดประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์ สปป.ลาว ได้รับการประสานจากกงสุลใหญ่ ณ แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องการความสงบ แขวงจำปาสัก สปป.ลาว ได้กำหนดส่งตัวนายชาตรี มุ่งหมาย ผู้ต้องหาหลบหนีคดียาเสพติดกับประเทศไทย
ด้าน นายเมธา รุ่งฤทัยวัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวขอบคุณ แขวงจำปาสัก สปป.ลาว ที่ได้ดูแลประชาชนชาวไทย ที่กระทำความผิดกฎหมาย สปป.ลาว เช่น ลักลอบเข้าเมือง คดีอยู่ในพื้นที่เกินกำหนด และ คดียาเสพติด รวมทั้ง หมด 6 คน โดยได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแขวงจำปาสัก สปป.ลาว และจังหวัดอุบลราชธานี ในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายตามแนวชายแดนต่อไป.